Talent 
management สไตล์ซีอีโอ ไทยออยล์   
ในอนาคตคุณลักษณะสำคัญของผู้บริหารระดับสูงตั้งแต่ระดับรองซีอีโอของไทยออยล์ควรต้องผ่านประสบการณ์การทำงานที่ต่างประเทศ
เป้าหมายในวันนี้ของ 
ไทยออยล์ ก็คือ การก้าวไปแข่งในเวทีอาเซียน 
เพราะหากไม่แข่งก็ยิ่งแพ้
วีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล 
กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท 
ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า 
ประเทศไทยเรานั้นเล็กมากมีประชากรเพียงแค่ 60 ล้านคน ขณะที่ทั้งโลกมีถึง 6-7 
พันล้านคน ซึ่งแปลว่าประชากรไทยมีสัดส่วนเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น 
หากธุรกิจมีเป้าหมายจะเติบโตอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องไปเติบโตนอกประเทศ
อีกเหตุผลสำคัญก็คือ 
การเปิดเสรีอาเซียนที่สุดจะทำให้ให้ผู้เล่นหรือธุรกิจที่เข้มแข็งอยู่แล้วจะเข้มแข็งยิ่งขึ้น 
ดังนั้น 
ไทยออยล์จึงกำลังเร่งสร้างความเข้มแข็งทั้งเรื่องของขนาดและความสามารถในการแข่งขัน
แผนก้าวไปข้างหน้า และการเติบโต
ไทยออยล์นั้น วีรศักดิ์ เผยว่ามีอยู่ 3 เรื่องหลักๆ เรื่องแรก 
คือการต่อยอดธุรกิจเดิมที่ทำอยู่แล้ว และทำได้ดี มีขีดความสามารถในการแข่งขัน 
หมายถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในระบบงาน 
การเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูงและมีมูลค่าให้มากยิ่งขึ้น สอง 
คือการมองหาธุรกิจใหม่ๆ ที่มีขีดความสามารถในการแข่งขัน 
และเป็นธุรกิจที่สามารถเชื่อมโยงกับธุรกิจที่ทำอยู่ และสาม 
คือการขยายธุรกิจเดิมไปยังกลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งภายหลังการกลั่นกรอง 
ไทยออยล์พบว่าประเทศเป้าหมายมีอยู่ด้วยกัน 3ประเทศ ได้แก่ 
อินโดนีเซีย เวียดนามและพม่า
ทว่า ฝันคงไม่อาจเป็นจริงได้ ถ้าอาศัยความเก่งกาจของซีอีโอเพียงลำพัง
"ต่อให้ซีอีโอเก่งขนาดไหน ถ้าไม่มีคนเก่งๆ มาช่วย 
บริษัทก็คงเดินไปอย่างยากลำบาก มันต้องเป็นทีม เปรียบก็คงคล้ายกับทีมฟุตบอล 
การมีศูนย์หน้าเก่งคนเดียวคงไม่พอ การจะยิงประตูได้ 
หรือไม่ได้ขึ้นอยู่ที่ว่ามีคนส่งลูกให้ศูนย์หน้ายิงประตูหรือเปล่า 
หรือแม้ว่าถ้ายิงประตูได้ แต่กลับเสียประตูเยอะ ก็แพ้"
เขายอมรับว่าเรื่องคนกลายเป็นวาระที่สำคัญมากของ
ไทยออยล์ในวินาทีนี้
"ในอนาคตทุกอย่างบนโลกใบนี้จะถูกเกลี่ยให้มีความใกล้เคียงกัน 
เช่นขีดความสามารถในการหาเงินทุน แต่ที่จะเกลี่ยให้ใกล้เคียงกันไม่ได้เลยก็คือคน 
และจะต้องแย่งชิงกัน ซึ่งเป็นเรื่องของ 
การรักษาคนที่มีความสามารถให้อยู่กับองค์กร"
จำเป็นอย่างยิ่งที่ซีอีโอในยุคโลกเปิดเสรี ต้องเพิ่มบทบาทในเรื่องของ Talent 
management
วีรศักดิ์ บอกว่าก็เหมือนการบริหารทีมฟุตบอล 
ที่เขาจะต้องมองหานักฟุตบอลเก่งๆ เข้ามาอยู่ในทีม 
และต้องรักษาเพื่อไม่ให้พวกเขาตีจากไปอยู่ทีมอื่น
คำถามก็คือ 
ไทยออยล์ มีคนเก่งๆ อยู่ในทีมมากน้อยเพียงใด
"เรามีโอกาสในการคัดเลือกคนเก่งๆ เข้ามาทำงาน 
เป็นเพราะชื่อเสียงของบริษัท ผลตอบแทนซึ่งอยู่ในระดับที่แข่งขันได้ 
รวมถึงเรามีการพัฒนาคนอย่างต่อเนื่อง สัดส่วนคนเก่งของเราจึงค่อนข้างเยอะ 
"
ทว่าโจทย์สำคัญ ที่
ไทยออยล์รวมถึงบริษัทข้ามชาติกลับต้องเผชิญ ก็คือ 
การเตรียมความพร้อมให้คนสามารถปรับตัวและรับมือกับคำว่าความ "แตกต่าง" 
ตรงนี้จึงเป็นเรื่องของความคิดและทัศนคติ ซึ่งต้องอาศัยเรื่องของการสื่อสาร
"การสื่อสารให้พนักงานพร้อมจะไปทำงานประเทศไหนก็ได้ 
พร้อมทำงานท่ามกลางความแตกต่างทางเชื้อชาติ วัฒนธรรม ฟังแล้วดูเป็นเรื่องง่าย 
แต่มันไม่ง่ายเลย ในเมื่อทำงานอยู่ในประเทศไทยแล้วมีความสุขสบาย 
ตรงกันข้ามเมื่อไปทำงานที่ประเทศอื่นมันยากกว่า มันต้องดิ้นรน มันต้องแข่งขัน"
การรับมือกับความท้าทายดังกล่าว 
ซีอีโอท่านนี้บอกว่าควรต้องพัฒนาสายพันธุ์คนให้มีคุณลักษณะที่โดดเด่นใน 5 
เรื่องหลักๆ ดังนี้
คุณสมบัติแรก ต้องมีความสามารถในการสื่อสาร 
ซึ่งในอนาคตเขาบอกว่าในการคัดเลือกพนักงานของ
ไทยออยล์แทนที่จะสัมภาษณ์ว่า 
"คุณพูดภาษาอังกฤษได้หรือเปล่า"เพราะมันจะกลายเป็นเรื่องที่ ทุกคนต้องพูดได้ 
แต่จะเปลี่ยนเป็นคำถามที่ว่า "ภาษาที่สามของคุณคือภาษาอะไร"
"ในอาเซียนแน่นอนว่าสื่อสารกันด้วยภาษาอังกฤษ 
แต่ความเป็นจริงเวลาไปทำธุรกิจในประเทศใกล้เคียงเราจำเป็นต้องรู้ภาษาของเขาด้วย 
เช่นไปอินโดนีเซียหรือมาเลเซียก็ต้องพูดบาฮาซา เป็นต้น 
แต่ที่ควรต้องรู้และผมคิดว่าต่อไปจะมีบทบาทมากก็คือภาษาจีน 
เพราะธุรกิจของเขาขยายมายังภูมิภาคของเรามาก 
คนที่พูดภาษาจีนได้จะมีความได้เปรียบ"
คุณลักษณะที่สอง 
ต้องมีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน 
ไม่ว่าวัฒนธรรมนั้นๆ จะถูกใจหรือไม่ก็ตาม 
หากแต่ใจความสำคัญกลับอยู่ตรงการทำความเข้าใจ ต้องเรียนรู้และ 
ต้องปรับตัวเองให้เข้ากับวัฒนธรรมที่แตกต่างกันให้ได้
คุณลักษณะที่สาม 
ต้องสามารถบริหารจัดการอารมณ์และความเครียดของตัวเอง 
ซึ่งคนมักต้องเผชิญเวลาไปทำงานในต่างประเทศที่เต็มไปด้วยความแตกต่าง 
ดังนั้นต้องอาศัยการมองโลกในแง่มุมที่ดี และรู้วิธีที่จะผ่อนคลาย
คุณลักษณะที่สี่ 
ต้องมีความสามารถในการเรียนรู้และทำงานได้โดยได้รับการดูแลจากหัวหน้าน้อยที่สุด 
นั่นหมายถึงการนั่งรอคำสั่ง แต่มีความดิ้นรน 
หาทางบรรลุเป้าหมายในการทำงานด้วยตัวเอง
คุณลักษณะที่ห้ามีความสามารถในการปรับตัวและพร้อมรับกับความเปลี่ยนแปลง 
ซึ่งวีรศักดิ์บอกว่าข้อนี้ถือเป็นจุดอ่อนของพนักงานคนไทย
"แต่มุมมองของบริษัทนั้นต่างไปอย่างสิ้นเชิง ก็คือ หากอยู่เฉยๆ 
ก็คือความเสี่ยง ยิ่งอยู่นิ่งที่สุด หมายถึง ความเสี่ยงที่สุด 
มันเป็นความเสี่ยงเพราะไม่กล้าเสี่ยง ทุกธุรกิจไม่อาจเติบโตหากมีการนิ่งอยู่ กับที่ 
ซึ่งเราก็เห็นมาเยอะแล้วว่า ในที่สุดการอยู่นิ่งๆ 
ทำให้ที่สุดบริษัทก็เสียขีดความสามารถ และไม่อาจแข่งขันต่อไปได้"
เขาเชื่อว่า หากต้องการจะเปลี่ยนแปลงหรือทำอะไรให้เกิดขึ้นภายในองค์กร 
ต้องเริ่มต้นที่ตัวผู้นำ นั่นหมายถึง ผู้นำต้องเป็นตัวอย่างที่ดี 
ทั้งไนเชิงการทำงาน ในเชิงควาามคิด ในเชิงการวางกลยุทธ์ 
"เพราะพนักงานเขาไม่เพียงแค่ฟัง แต่เขาดูว่าผู้นำนั้นทำอะไรด้วย"
และยังมองว่าในอนาคต 
คุณลักษณะสำคัญโดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูงจำเป็นต้องผ่านประสบการณ์การทำงานที่ต่างประเทศมาแล้ว
"ธุรกิจที่ขยายไปต่างประเทศต้องมีการเติบโตขึ้นเรื่อยๆ 
มีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ ผู้บริหารต้องมีความเข้าใจในการทำงานในต่างประเทศ 
ตลาดต่างประเทศ และเข้าใจวัฒนธรรมต่างประเทศ"
ถามว่าแล้วควรเป็นผู้บริหารระดับใด คำตอบก็คือ 
เริ่มตั้งแต่ระดับรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารขึ้นมา
--------------------------------------------------------------------------------------------
แนะนำ :
1. 
www.siamhrm.com ศูนย์รวมข้อมูลด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์ 
2. 
www.JobSiam.com หางาน สมัครงาน คุณภาพ